นโยบายความเป็นส่วนตัว
ประกาศ บริษัท กฎหมายจักรเพชร จำกัด
เรื่อง นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการโดยขึ้นอยู่กับลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ ดังต่อไปนี้
วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล | ฐานในการประมวลผลข้อมูล |
เพื่อดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสัญญาจ้างงานระหว่างบริษัทฯ กับท่าน รวมถึงสัญญาอื่นที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน เช่น สัญญาไม่เปิดเผยความลับ เป็นต้น | - การปฏิบัติตามสัญญา |
เพื่อปฏิบัติหน้าที่ของเราภายใต้สัญญาจ้างงาน และขั้นตอนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน เช่น การจัดทำเงินเดือน การบันทึกประวัติพนักงาน การจัดทำรายงานการลาทุกประเภท การประเมินผลการทำงาน การประเมินการทำงานในระยะทดลองงาน เป็นต้น | - การปฏิบัติตามสัญญา |
เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงเพื่อรายงานข้อมูลต่อหน่วยงานราชการตามที่กฎหมายกำหนด เช่น กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือเมื่อได้รับหมายเรียก หรือหมายอายัดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานราชการ หรือศาล เป็นต้น | - การปฏิบัติตามกฎหมาย |
เพื่อให้ท่านปฏิบัติตามข้อกำหนดภายใต้สัญญาจ้างงานในฐานะพนักงานของบริษัทฯ รวมถึงการใช้ข้อมูลสแกนลายนิ้วมือ เพื่อรักษาความปลอดภัยของระบบและข้อมูลของบริษัท สำหรับการปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานของท่าน | - การปฏิบัติตามสัญญา |
เพื่อจัดให้มีการฝึกอบรมสำหรับพนักงานตามที่ได้ตกลงหรือกำหนดไว้ในสัญญาจ้างงาน และนโยบายของบริษัท กฎระเบียบ และข้อบังคับการทำงาน | - การปฏิบัติตามสัญญา |
เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในหรือบริเวณสำนักงานใหญ่ สำนักงานสาขา หรือสถานที่ของบริษัท ผ่านระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) | - ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
เพื่อจัดการและแก้ไขข้อร้องเรียนต่าง ๆ อันเนื่องมาจากการปฏิบัติงานภายใต้สัญญาจ้างงาน รวมถึงการสืบสวน สอบสวน หรือกระบวนการทางกฎหมายอื่นใด | - ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
เพื่อเก็บรักษาข้อมูลของท่านหลังจากสัญญาจ้างงานของท่านได้สิ้นสุดลง เพื่อเป็นการอ้างอิงสำหรับการสมัครงานอีกครั้งของท่านกับบริษัทฯ ในอนาคต | - ความยินยอม |
เพื่อการติดตามทวงถามหนี้ | - การปฏิบัติตามสัญญา |
เพื่อการดำเนินคดี หรือกระบวนการทางกฎหมายอื่นใด | - การปฏิบัติตามสัญญา |
เพื่อยืนยันตัวตนสำหรับการติดต่อและติดตามหนี้ | - การปฏิบัติตามสัญญา |
เพื่อการจัดเก็บและสำรองข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าในกรณีเกิดภัยพิบัติหรือไม่ก็ตาม) ของท่านและบุคลากรของท่าน | - การปฏิบัติตามสัญญา |
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ หลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บรักษา ได้แก่ บริษัทฯ เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตลอดระยะเวลาที่บริษัทฯ ดำเนินความสัมพันธ์การจ้างงานกับท่าน และบริษัทฯอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย หรือเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อการปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือเพื่อการยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ของตนสำหรับการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของเรา
5.1 วิธีการเก็บและสถานที่เก็บข้อมูลทั้งในรูปแบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และหรือ ที่เป็นเอกสาร
5.2 กำหนดพาสเวิร์ดหรือผู้รับผิดชอบการเก็บ การใช้ การเปิดเผยที่ชัดเจน เฉพาะคน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการ
ละเมิดเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้อง
5.3 กำหนดให้มีการตรวจสอบเป็นระยะ และให้มีการทบทวนทั้งระบบอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่า
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บ ใช้งาน ได้รับการคุ้มครองตามนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สถานที่เก็บให้เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกดังต่อไปนี้
ท่านมีสิทธิขอเพิกถอนความยินยอมที่ให้ไว้แก่บริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่อิออนก่อนหน้าแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ ในบางกรณี หากท่านถอนความยินยอม ท่านอาจได้รับความสะดวกในการทำงานกับบริษัทฯ น้อยลง หรืออาจไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ของพนักงานและข้อเสนอพิเศษอื่น ๆ
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ ได้จำนวนหนึ่งชุด รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม บริษัทฯ อาจขอให้ท่านพิสูจน์ยืนยันตัวตนก่อนจะให้ข้อมูลที่ท่านขอตามดุลยพินิจของเรา หากท่านขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหลายชุด บริษัทฯ อาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการดำเนินการได้ตามสมควร
- ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้
(4) สิทธิในการคัดค้าน (Right to Object)
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลโดยประการอื่นเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด เราจะดำเนินการตามคำขอของท่าน เว้นแต่เรามีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายสำหรับการประมวลผลที่สำคัญยิ่งกว่าประโยชน์และสิทธิของท่าน หรือเราจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลของท่านต่อไปเพื่อการก่อตั้ง การใช้ หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(5) สิทธิในการลบ (Right to Erasure)
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ด้วยเหตุบางประการได้ เว้นแต่เราจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเพื่อการก่อตั้ง การใช้ หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(6) สิทธิในการระงับการประมวลผล (Right to Restriction of Processing)
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้ เมื่อท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไม่ถูกต้อง หรือการประมวลผลของเราไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเราไม่มีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามวัตถุประสงค์เฉพาะ แต่เป็นกรณีที่เราไม่สามารถลบข้อมูลนั้นได้เนื่องจากการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือท่านไม่ประสงค์จะให้เราลบข้อมูลดังกล่าว
(7) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification)
บริษัทฯ พยายามที่จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่บริษัทฯ มีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
บริษัทฯ มีการพิจารณาทบทวนและอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามความเหมาะสมอยู่เป็นระยะเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม หากนโยบายนี้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบนโยบายความเป็นส่วนตัวด้วยวิธีการประกาศที่เหมาะสม
พนักงาน หรือ ลูกค้า คู่ค้า ผู้มาติดต่องาน หรือ บุคคลภายนอก หรือ ผู้ใด นำข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทคุ้มครองไว้
บริษัทฯ จะลงโทษถึงขั้นสูงสุด หรือดำเนินคดีตามที่กฎหมายกำหนดไว้สูงสุด
ทั้งนี้ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป
จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน
ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
สำหรับผู้สมัครงาน และพนักงาน
บริษัท กฎหมายจักรเพชร จำกัด เคารพและให้ความสำคัญในสิทธิความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน และผู้สมัครงาน (“ท่าน”) และมีความรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของบริษัท และมุ่งมั่นที่จะจัดการข้อมูลดังกล่าว ด้วยวิธีการที่มั่นคงปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ในการนี้ บริษัทจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับพนักงานฉบับนี้ (“ประกาศ”) เพื่ออธิบายถึงวิธีการปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว และชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ การเปิดเผย และวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมแจ้งสิทธิต่างๆ ของท่าน ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
ข้อ 1. คำนิยาม
“ผู้สมัครงาน” หมายถึง ผู้สมัครงานที่ยังไม่ได้รับการพิจารณารับเข้าเป็นพนักงาน
“พนักงาน” หมายถึง ผู้สมัครงานที่เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำสัญญาจ้างงานกับบริษัท เพื่อทำงานให้แก่บริษัทในฐานะพนักงานประจำ พนักงานอัตราจ้าง พนักงานชั่วคราว ที่เข้ามาทำงานให้กับบริษัท แล้วแต่กรณี
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน ตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
ข้อ 2. ประเภทข้อมูลส่วนบุคล
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านซึ่งอาจได้แก่ข้อมูลดังต่อไปนี้ โดยอาจแตกต่างกัน แล้วแต่กรณี และลักษณะของกิจกรรมที่บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลของท่าน
2.1 ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่าย ลายมือชื่อ สถานภาพสมรส สถานภาพทางทหาร
2.2 ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล
2.3 ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา การฝึกอบรม เช่น ประวัติการศึกษา ชื่อสถาบัน คณะ สาขาวิชา และปีที่จบ ผลการศึกษา ผลการทดสอบ ประวัติการฝึกอบรม หรือฝึกงาน ใบรับรองคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ระบุในใบสมัคร ความสามารถ และการพัฒนาศักยภาพ และคุณสมบัติอื่น ๆ ของท่าน คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ความสามารถทางด้านภาษา และความสามารถอื่น ๆ
2.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานก่อนหน้า เช่น ประวัติการทำงาน ประสบการณ์การทำงาน ซึ่งรวมถึงตำแหน่ง เงินเดือน ผลการประเมินการทำงาน
2.5 ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครงาน เช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน จดหมายสมัครงาน ข้อมูลตามเอกสารที่ท่านส่งมอบให้แก่บริษัท เช่น ข้อมูลที่ปรากฏใน Resume Curriculum Vitae (CV) เงินเดือนที่คาดหวัง ข้อมูลการสัมภาษณ์งาน ข้อมูลที่ท่านแจ้งแก่บริษัทในระหว่างการสัมภาษณ์งาน หลักฐานหรือหนังสืออ้างอิงต่าง ๆ และข้อมูลที่ปรากฏในแบบประเมินผลการสัมภาษณ์ ข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการสรรหาและคัดเลือก เช่น ผลการประเมิน ความรู้และประสบการณ์ คุณลักษณะส่วนบุคคล การทำงานกับผู้อื่น และเอกสารใบรับรองที่ประกอบการพิจารณา เป็นต้น
2.6 ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการสมัครงานหรือทำนิติกรรม เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบสำคัญการเกณฑ์ทหาร สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร ใบอนุญาตทำงาน ใบขับขี่ และสิ่งที่สามารถระบุตัวตนอื่น เช่น ใบอนุญาตผู้สอบบัญชี และใบอนุญาตทนายความ ใบอนุญาตอื่นใดที่เกี่ยวกับตำแหน่งงานของท่าน แบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน หนังสือยินยอมให้สอบประวัติบุคคล รายงานผลการตรวจสอบประวัติบุคคล หนังสือค้ำประกันการทำงานและเอกสารที่มีชื่อผู้ค้ำประกันการทำงาน
2.7 ข้อมูลในระหว่างปฏิบัติงาน เช่น รหัสพนักงาน ตำแหน่ง แผนก สังกัด การประเมินผลการปฏิบัติงาน พฤติกรรมในการทำงาน ผลงานและ/หรือรางวัลที่ได้รับ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา การดูแลสิทธิประโยชน์สวัสดิการ ข้อมูลการฝึกอบรม ข้อมูลการลงโทษทางวินัย ข้อมูลที่ปรากฏในหนังสือโอนย้ายบุคลากร ข้อมูลเกี่ยวกับความประพฤติการหรือวินัยการทำงาน ใบลาออกจาก และเหตุผลที่ลาออก สาเหตุการพ้นสภาพการเป็นพนักงาน
2.8 ข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์และค่าตอบแทน เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง ผลตอบแทน โบนัส รายละเอียดเกี่ยวกับค่าบำเหน็จ สวัสดิการ เลขบัญชีธนาคาร หนังสือยินยอมให้หักเงินเดือน ข้อมูลของผู้รับผลประโยชน์ ข้อมูลเกี่ยวกับการประกันสังคม ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ข้อมูลด้านภาษีอากร และการหักลดหย่อนภาษี
2.9 ข้อมูลเกี่ยวกับสถิติทางทะเบียน เช่น วันที่เริ่มงาน วันครบกำหนดทดลองงาน วันและเวลาที่เข้าทำงาน จำนวนชั่วโมงที่ทำงาน จำนวนชั่วโมงที่ทำงานล่วงเวลา วันหยุดพักผ่อนประจำปี วันลา แบบแจ้งการลา รายละเอียดการลา รวมถึงสาเหตุการลา
2.10 ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่บริษัท ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน รวมถึงข้อมูลการสื่อสาร และการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต และอีเมล อุปกรณ์สื่อสารของบริษัทในระหว่างปฏิบัติงาน
2.11 ข้อมูลอื่นๆ เช่น เสียง ภาพนิ่ง และ/หรือภาพเคลื่อนไหว ที่ได้จากกล้องวงจรปิด รวมถึง ข้อมูลอื่นใดที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมหรือแคมเปญต่าง ๆ ที่บริษัทหรือบริษัทในเครือจัดขึ้น
2.12 ข้อมูลบุคคลภายนอกที่ท่านให้ไว้ หรือข้อมูลที่บริษัทได้จากบุคคลภายนอก เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นซึ่งท่านรับรองต่อบริษัทว่า ท่านได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวให้เปิดเผยข้อมูลแก่บริษัท รวมถึงยินยอมให้บริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้น เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ ได้แก่ ชื่อ นามสกุล อาชีพ สถานที่ทำงาน และหมายเลขโทรศัพท์ของคู่สมรส บุตร บิดา มารดา หรือบุคคลในครอบครัวที่บริษัทสามารถติดต่อในกรณีฉุกเฉิน หรือบุคคลที่ท่านอ้างอิงเพื่อการตรวจสอบและรับรองการทำงาน และ/หรือผู้ค้ำประกันการทำงาน รวมถึงข้อมูลที่บุคคลภายนอกให้ไว้ เกี่ยวกับ รายละเอียด พฤติกรรม เกี่ยวกับพนักงานหรือผู้ฝึกงาน
ข้อ 3. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว
3.1 ในกรณีที่จำเป็นบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน โดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน ตามแบบฟอร์มการขอความยอนยอมสำหรับการประมวลผลข้อมูลอ่อนไหว ซึ่งบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอ เพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน ทั้งนี้ บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าว เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ และตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทแจ้งไว้ ในกรณีดังต่อไปนี้
3.2 หากท่านไม่มีความประสงค์ให้บริษัทจัดเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน ท่านสามารถปฏิเสธการประมวลผลได้ในการกรอกแบบฟอร์มการขอความยินยอมในครั้งนั้นๆ หรือแจ้งถอนความยินยอมในภายหลังได้ตลอดเวลาโดยติดต่อ ได้ที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล
ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านไม่ประสงค์ให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ตามที่ระบุในข้อ 3.1 แต่ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าวปรากฏอยู่บนบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน หรือเอกสารอื่นใดที่ท่านได้สมัครใจเปิดเผยไว้ต่อบริษัท เช่น เชื้อชาติ ข้อมูลหมู่โลหิต หรือข้อมูลศาสนา และท่านได้ทำการส่งมอบข้อมูลใด ๆ ซึ่งปรากฏข้อมูลที่มีลักษณะเช่นว่านี้ให้แก่บริษัทไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบข้อมูลในลักษณะเป็นเอกสาร หรือสื่ออื่นใด บริษัทแนะนำให้ท่านเป็นผู้ปกปิดข้อมูลอ่อนไหวเหล่านี้ ด้วยตัวท่านเอง โดยวิธีการขีดฆ่าข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว อย่างไรก็ตาม หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลด้วยตัวท่านเอง บริษัทถือว่าท่านได้อนุญาตโดยชัดแจ้งให้บริษัททำการปกปิดข้อมูลเหล่านี้ให้แก่ท่าน และให้ถือว่าข้อมูลที่ท่านส่งมอบมานี้ ซึ่งบริษัทได้จัดการปกปิดข้อมูลอ่อนไหวให้แก่ท่านแล้วเป็นเอกสารที่สมบูรณ์ ใช้บังคับได้ตามกฎหมายทุกประการ และให้บริษัทสามารถนำไปประมวลผลได้ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่บริษัทไม่สามารถจัดการปกปิดข้อมูลอ่อนไหวแก่ท่านได้เนื่องด้วยปัญหาเชิงเทคนิค หรือปัญหาอื่นใด บริษัทจะทำการจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น
ข้อ 4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
โดยทั่วไปบริษัทเก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยได้รับจากท่านโดยตรง ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบเอกสาร หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรืออาจให้ท่านกรอกข้อมูลลงในเอกสารที่บริษัทจัดเตรียมไว้ อย่างไรก็ตาม ด้วยลักษณะของกิจกรรมบางประเภท อาจมีกรณีที่บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลของท่านบางประการ ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่บริษัทได้รับจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากท่าน โดยมีรายละเอียดช่องทางการได้รับข้อมูล ดังนี้
4.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทโดยตรง
ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท โดยตรง เช่น เมื่อท่านยื่นใบสมัครงานและเอกสารประกอบการสมัครงานให้แก่บริษัท ข้อมูลในระหว่างการปฏิบัติงาน ข้อมูลเมื่อท่านระบุ รวมถึงข้อมูลที่ได้จากการเข้าทำสัญญากับบริษัท และข้อมูลที่ได้จากการส่งมอบเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฏอยู่มาให้กับบริษัท เป็นต้น
4.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับมาจากบุคคลภายนอก
ในกรณีที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลที่สาม และ/หรือบุคคลอื่นใดที่เป็นผู้ควบคุม หรือประมวลผลข้อมูล โดยบริษัทเชื่อโดยสุจริตว่าบุคคลเหล่านั้น เป็นผู้มีสิทธิประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และมีสิทธิเปิดเผยให้แก่บริษัทได้ ซึ่งได้แก่ ข้อมูลที่ได้จากการโต้ตอบทางโทรศัพท์ และข้อมูลที่ได้จากแบบฟอร์ม เอกสารต่าง ๆ เกิดขึ้นในระหว่างปฏิบัติงานกับบริษัท เป็นต้น
ข้อ 5. วัตถุประสงค์และฐานการประมวลผล
5.1 บริษัทประมวลผลข้อมูลของพนักงานภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อการดำเนินการตามสัญญาจ้างแรงงาน สัญญาอื่นใดที่ท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัท ซึ่งบริษัทจำเป็นต้องได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ทั้งนี้ หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัท อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัท ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่หรือไม่สามารถให้สิทธิภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ (แล้วแต่กรณี) ในกรณีดังกล่าว บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือการให้สิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
5.2 ในกรณีที่บริษัทจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนด บริษัทจะจัดให้มีประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือแจ้งไปยังท่านเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว โดยท่านควรอ่านประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฉบับนี้ และ/หรือหนังสือดังกล่าว (แล้วแต่กรณี)
5.3 บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาจอาศัยหรืออ้าง
(1) ฐานความยินยอม เพื่อประมวลผลข้อมูลของท่าน (2) ฐานการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเริ่มต้นทำสัญญา หรือการเข้าทำสัญญา หรือการปฏิบัติตามสัญญากับท่าน (3) ฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท (4) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก (5) ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ (6) ฐานประโยชน์สาธารณะสำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติ
หน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด แล้วแต่กรณี โดยบริษัทจะประมวลผลข้อมูลของท่านโดยแยกตามกิจกรรมที่บริษัทดำเนินการภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังที่ระบุตามตารางนี้
ลำดับ | วัตถุประสงค์ | ฐานการประมวลผล |
1 | การดำเนินการตามคำขอของท่านในการสมัครงานกับบริษัท เช่น การคัดเลือก การจัดทำสัญญา การดำเนินการตามกระบวนการสรรหา การตรวจสอบคุณสมบัติ รวมถึงการปฏิบัติตามสัญญา การจ่ายค่าตอบแทน การให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ | การปฏิบัติตามสัญญา/ เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
2 | การขึ้นทะเบียนพนักงาน การจัดเตรียมบัตรพนักงาน วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ อีเมล username & password สำหรับการเข้าระบบต่าง ๆ ที่จำเป็น และอื่นๆ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติงาน | การปฏิบัติตามสัญญา |
3 | การเก็บข้อมูลชีวภาพ (Biometrics) ของพนักงาน เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ภาพจำลองใบหน้าเพื่อบันทึกการเข้า-ออกสถานที่ทำงาน หรือสถานที่ของบริษัท ระบุและยืนยันตัวตนของท่าน การรักษาความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน การป้องกันอาชญากรรม | ความยินยอม |
4 | การเก็บข้อมูลประวัติอาชญากรรม เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการปฏิบัติ | ความยินยอม |
5 | การบริหารจัดการเรื่องเงินเดือน ค่าตอบแทน ค่าจ้าง โบนัส ค่าล่วงเวลา ค่าที่พัก ค่าเดินทาง รวมถึงผลประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับพนักงาน | การปฏิบัติตามสัญญา / การปฏิบัติตามกฎหมาย |
6 | การบริหารจัดการเรื่องกองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนเงินทดแทน การบริหารจัดการด้านภาษีอากรของพนักงาน เช่น ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการลดหย่อนภาษี | การปฏิบัติตามสัญญา / การปฏิบัติตามกฎหมาย |
7 | การประกาศวันเกิด และการแสดงความยินดีเกี่ยวกับการมีบุตร รวมถึงการแสดงความอาลัยเกี่ยวกับการสูญเสียบุคคลในครอบครัวของพนักงาน | เพื่อประ โยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย/ความยินยอม |
8 | การบริหารจัดการด้านกิจกรรมที่เกี่ยวกับการจ้างงานของพนักงานตลอดระยะเวลาการทำงาน เช่น การนำข้อมูลพนักงานไปใช้อ้างอิง (Reference) | การปฏิบัติตามสัญญา/เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
9 | การถ่ายภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว การถ่ายภาพพิธีการ ภาพรวมบรรยากาศ การจัดงานเลี้ยงวันเกิด งานเลี้ยงปีใหม่ งานสังสรรค์ งานประชุม อบรม สัมมนา การจัดงานท่องเที่ยวประจำปี กิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น | การปฏิบัติตามสัญญา /เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
10 | การบริหารจัดการด้านวันหยุด วันลา การขาดงาน และรายละเอียดการเข้าร่วมกิจกรรม | การปฏิบัติตามสัญญา |
11 | ประกาศรายชื่อพนักงาน ข้อมูลการติดต่อ การประกาศพนักงานใหม่ และการประกาศกรณีพ้นสภาพ ประกาศบุคคลที่เป็นพนักงานดีเด่น หรือได้รับการคัดเลือกเป็นพนักงานดีเด่นหรือได้รับรางวัล ประกาศครบอายุการทำงาน(การเกษียณ) ประกาศเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่ง และการย้ายหน่วยงานของ | เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
12 | การอายัดเงินเดือน หรือค่าตอบแทนอื่นใดตามหมาย หรือคำสั่งของ | การปฏิบัติตามกฎหมาย |
ข้อ 6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
6.1 บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามกฎหมายให้แก่บุคคลและหน่วยงาน ดังต่อไปนี้
- หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจในการขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ ศาล พนักงานสอบสวน อัยการ กรมบังคับคดี เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานประกันสังคม กรมสรรพากร เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือองค์กรอื่นใดที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดโดยกฎหมายในการขอข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงอาจมีการเปิดเผยให้หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีของบริษัทเองด้วย
6.2 บริษัทจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และจะดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ รวมถึงจะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดในประกาศฉบับนี้ หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น โดยในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อน
ข้อ 7. ระยะเวลาในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่มีความจำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ของการประมวลผล ตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ แบ่งได้ดังนี้
7.1 บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานที่ไม่ผ่านการพิจารณา โดยมีกำหนดระยะเวลา 1 ปี ส่วนพนักงาน เก็บตลอดระยะเวลาการเป็นพนักงาน และเก็บต่อเนื่องอีกเป็นระยะเวลา 2 ปี นับถัดจากปีที่สิ้นสุดสัญญาจ้าง
7.2 เมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนดแล้ว บริษัทจะดำเนินการลบ ทำลาย ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูล ที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลบางอย่างไว้นานกว่าที่ระบุข้างต้น หากจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจผู้เกี่ยวข้อง และเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจหรือโดยชอบตามกฎหมาย
ข้อ 8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทเคารพสิทธิส่วนบุคคลของท่าน และเปิดโอกาสให้ท่านสามารถเลือกวิธีการควบคุม หรือวิธีการที่บริษัทใช้ติดต่อท่าน โดยบริษัทจะปฏิบัติตามที่ท่านได้ร้องขอ เพื่อช่วยให้เกิดความโปร่งใส และเพื่อคุณภาพของข้อมูล และความถูกต้องของข้อมูล ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยท่านสามารถส่งคำขอให้บริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนดในการดำเนินการตามสิทธิ ดังต่อไปนี้
8.1 สิทธิขอถอนความยินยอม: หากท่านได้ให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัททั้งนี้ บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่า การเพิกถอนความยินยอมไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้แล้วโดยชอบ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมาย หรือโดยสภาพ ไม่สามารถถอนความยินยอมได้ หรือมีสัญญาระหว่างท่านกับบริษัทที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ หรืออาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ได้
8.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยว่าบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร
เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมาย หรือคำสั่งของศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
8.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยัง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิคทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัท หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องประมวลผล เพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้บริการ หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด
8.4 สิทธิขอคัดค้าน: ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นโดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติหากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทจะยังคงดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
8.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกประมวลผลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศฉบับนี้ หรือเมื่อบริษัทเห็นว่าสามารถปฏิบัติตามที่ท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
8.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใด ที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทน
8.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ หากท่านประสงค์จะขอแก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับภาพ บริษัทจะทำการแก้ไขเฉพาะรายการข้อมูลที่เกี่ยวกับภาพของท่านเพื่อให้ถูกต้อง ตามความจำเป็นของบริษัทที่ชอบด้วยกฎหมายและในกรณีที่การดำเนินการตามคำขอก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายบริษัทอาจเรียกเก็บค่าใช้จ่ายดังกล่าวจากท่าน
8.8 สิทธิร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อบริษัทผ่าน แบบฟอร์มร้องเรียนการประมวลผลข้อมูล หรือผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ข้อ 9. มาตรการการรักษาความปลอดภัย
บริษัทกำหนดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจหรือโดยขัดต่อกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและวิธีปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศของบริษัทและนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
ข้อ 10. ช่องทางการติดต่อ
กรณีที่เจ้าของข้อมูลมีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิตามที่กำหนดไว้ในประกาศฉบับนี้ หรือสอบถามเพิ่มเติม ผ่านช่องทาง ดังนี้
เรื่องเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล : ติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: (Data Protection Officer)
- อีเมล์ : privacy@jakpetlaw.co.th
- เบอร์โทรศัพท์ : ที่ทำการเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DOP Ofiice) 02-026-6937 ต่อ 5 หรือ 098-996-5298
- สถานที่ติดต่อ : 66,68 ซอยรัตนาธิเบศร์ 28 แยก 2 ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000
ข้อ 11. การแก้ไขเปลี่ยนแปลง
บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไข ทบทวน และปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวที่จะมีผลบังคับใช้ ณ เวลาที่ได้เผยแพร่ต่อไปโดยมิต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ เพื่อความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการให้บริการ ดังนั้น บริษัทจึงขอแนะนำให้ท่านอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวทุกครั้งที่เยี่ยมชม หรือใช้บริการจากบริษัท
ทั้งนี้ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป
จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน
แบบคำร้องขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้มีการกำหนดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ ดังต่อไปนี้
(1) สิทธิขอถอนความยินยอม (Right to withdraw consent)
(2) สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล (Right to access)
(3) สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล (Right to data portability)
(4) สิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to object)
(5) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล (Right to erasure)
(6) สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล (Right to restriction of processing)
(7) สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล (Right to rectification)
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ประสงค์จะจัดการข้อมูลของตนเอง สามารถส่งแบบฟอร์มมายังอีเมล privacy@jakpetlaw.co.th หรือส่งไปรษณีย์มายังบริษัท บริษัท กฎหมายจักรเพชร จำกัด
(ที่อยู่ 66, 68 ซอยรัตนาธิเบศร์ 28 แยก 2 ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000 )
ทั้งนี้ เมื่อบริษัทฯได้รับแบบฟอร์มและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เมื่อได้ตรวจสอบเอกสารแล้ว บริษัทฯจะดำเนินการแจ้งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งอยู่ในความควบคุมดูแลของบริษัทฯทราบโดยทันทีและจะดำเนินการตามคำขอของท่านภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำขอและเอกสารประกอบโดยครบถ้วน เว้นแต่การดำเนินตามคำขอของท่านจะละเมิดนโยบายความเป็นส่วนตัวของท่านอื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย
หากท่านประสงค์ให้บริษัทฯระงับการประมวลผล เพิกถอน คัดค้านหรือลบข้อมูลของท่าน โปรดทราบว่าอาจมีบางบริการที่บริษัทฯไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้หากปราศจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน